โนเกีย ดีลเลอร์ทริป บานาฮิลล์ ดานัง ฮอยอัน 3 วัน 2 คืน
พบกันอีกครั้งกับเรื่องเล่าหลังทริปการเดินทาง วันนี้จะมารีวิวทริปการเดินทางของ YAS ที่จัดทริปนำดีลเลอร์โนเกีย มาท่องเที่ยว บานาฮิลล์ ดานัง ฮอยอัน 3 วัน 2 คืน โดยเราออกเดินทางกันทั้งหมด 2 รุ่น แล้วมาเจอกันในช่วงของงานเลี้ยงขอบคุณที่เมืองดานัง ซึ่งออกเดินทาง วันที่ 15-17 พ.ค. สำหรับรุ่นที่ 1 และ วันที่ 16-18 พ.ค. สำหรับรุ่นที่ 2 โดยเดินทางด้วยสายการบินไทยแอร์เอเซีย
ขออนุญาตเล่าเรื่องทั้งสองรุ่นไปในโปรแกรมเดียวกันครับ จะได้ไม่สับสน
วันแรกของการเดินทาง พวกเรานัดลูกค้าพร้อมกันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารต่างประเทศขาออก ซึ่งทางทีมงานพร้อมรับ และอำนวยความสะดวกในเรื่องของการเช็คอิน โหลดกระเป๋าสัมภาระ พร้อมแจกอาหารว่าง ก่อนขึ้นเครื่องกัน สำหรับการเดินทางมายังเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เราใช้เวลาบินแค่ประมาณ 1.25 ชม. เท่านั้น และเวลาที่เวียดนามเท่ากับเวลาที่เมืองไทย ดังนั้น จะไม่มีปัญหาเรื่องการปรับเวลา ภาพนี้กัปตันกำลังนำเครื่องลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ทำให้มองเห็นวิวเทือกเขาของเวียดนามได้ชัดเจนเมืองดานัง นั้นอยู่ในโซนเวียดนามกลาง เป็นเมืองที่ติดทะเลจีนใต้ สำหรับการผ่านพิธีการขั้นตรวจคนเข้าเมืองนั้น ไม่มีความยุ่งยากครับ ไม่มีใบตม.ให้กรอก ใช้เพียงหนังสือเดินทางเท่านั้น ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตม. เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ช่วงระหว่างสมาชิกผ่านขั้นตอนตม.และเข้าห้องน้ำกัน ทางหัวหน้าทัวร์ของพวกเราก้อจะมีหน้าที่คอยนำกระเป๋าลงจากสายพานกระเป๋าให้ พร้อมเรียง และแจ้งลูกค้าให้มารับกระเป๋าด้วยตนเอง เพื่อเป็นการตรวจสอบอีกครั้ง เมื่อรับกระเป๋าสัมภาระกันเรียบร้อย เราก้อนำไปขึ้นรถบัส ซึ่งทริปนี้ เราใช้รถบัส รุ่นละ 2 คัน รถบัสที่เมืองดานังนั้น ก้อค่อนจะมีมาตรฐานเหมือนๆ กันทุกๆ เจ้า ไม่ค่อยมีความแตกต่างเหมือนบ้านเรานัก เมื่อสมาชิกขึ้นรถบัสกันครบเรียบร้อย เราก้อออกเดินทางกัน ภาพด้านล่าง เป็นไกด์ท้องถิ่น ชาวเวียดนาม ช่วยให้บริการแจ้งน้ำดื่มกันก่อน หลังจากนั้น หัวหน้าทัวร์ ก้อจะมีหน้าที่ขึ้นกล่าวสวัสดีอย่างเป็นทางการกับทุกท่าน พร้อมแนะนำตัว ทีมงานไกด์เวียดนาม เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้มีการเชิญผู้บริหารของ YAS และ Nokia กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมทริปทุกท่านอีกครั้งเราใช้เวลาไม่นานนัก เดินทางมาถึง วัดหลินอึ๋ง เพื่อมาสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิม วัดหลินอึ๋ง ตั้งอยู่แหลมเซินจร่าเป็นวัดสร้างใหม่ใหญ่ที่สุดของเมืองดานัง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมความเชื่อ ความศรัทธาของธาตุทั้งห้าและจิตใจของผู้คนอยู่ในที่นี้
ภายในวิหารใหญ่ของวัดเป็นสถานที่บูชาเจ้าแม่กวนอิมและเทพองค์ต่างๆตามความเชื่อของชาวบ้านแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งมีความสูงถึง 67 เมตรสูงที่สุดในเวียดนาม สภาพอากาศ ณ วันเดินทางค่อนข้างร้อนอบอ้าวมาก ได้เวลาสมควร พวกเราออกเดินทางไปยัง Cafe’ Son tra marina ซึ่งเป็นคาเฟ่ริมทะเลแห่งใหม่ของเมืองดานัง อยู่ริมทะเล ไม่ไกลจากวัดหลินอึ้งเท่าไหร่นัก ร้านคาเฟ่แห่งนี้ตกแต่งในสไตล์ ซานโตรินี่ โทนฟ้า-ขาว ที่นี่นับว่าเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของทริปท่องเที่ยวเส้นทางเมืองดานัง สำหรับเมนูแนะนำของร้าน Son tra Marina , Danang ที่ห้ามพลาด คือ กาแฟเกลือ และกาแฟมะพร้าว ซึ่งที่นี่เขาจะเป็นแบบปั่น แล้วโรยด้านบนมาด้วย มะพร้าวอบแห้ง สำหรับผู้เขียนเลือก เมนู กาแฟเวียดนามใส่นมข้น ซึ่งชอบมาก ไปกี่รอบก็จะสั่งเมนูนี้ ว่าแล้วก้อชนแก้วกาแฟกันเสียหน่อย เดียวค่ำๆ ค่อยชนแก้วเหล้า ได้เวลาพอสมควรแล้ว เนื่องด้วยร้านคาเฟ่แห่งนี้ไม่มีห้องแอร์ ประกอบกับอากาศค่อนข้างร้อน ทำให้ผู้ร่วมเดินทาง อยากไปต่อกันแล้ว โดยจุดหมายต่อไปคือ เราจะไปทานอาหารกลางวันกันครับ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองดานัง ใช้เวลานั่งรถไม่เกิน 15 นาที ร้านที่เราจะพาไปทานอาหารกันนั้น เป็นร้านอาหารพื้นเมืองเวียดนามดั้งเดิมชื่อดังของดานัง อยู่ใกล้กับแม่น้ำฮาน
สำหรับเมนูที่พวกเราจัดเตรียมนั้น มีทั้ง แหนมเนือง , ขนมถ้วย-บั่นแบ๋ว , ขนมเบื้องญวน หรือ บั่นแซว บั่นหอย (Bánh hỏi) ลองมาดูหน้าตาอาหารของทริปนี้กันครับ
ต้องบอกก่อนว่า รสชาติของอาหารเวียดนามแท้นั้น จะแตกต่างออกไปจาก รสชาติอาหารเวียดนามในเมืองไทยนะครับ ซึ่งรสชาติที่บ้านเราจะถูกปรับให้เข้ากับจริตการทานอาหารของคนไทยมากกว่า แต่เพื่อการได้สัมผัสลิ้มลองกับอาหารเวียดนามแท้ มาถึงเวียดนาม ก้อต้องลองทานกันดูนะครับ หลังมื้ออาหารกลางวัน เราออกเดินทางไปยัง จุดขึ้นกระเช้าของบานาฮิลล์ ซึ่งมีระยะทางไม่ไกลจากตัวเมืองดานังเท่าไหร่นัก นั่งรถก้อประมาณ 30 นาที เราก้อเดินทางมาถึงจุดต่อกระเช้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปเที่ยวและนอนพักด้านบน บานาฮิลล์ นั่น จะต้องมาเช็คอิน ณ บริเวณเคาเตอร์ของ โรงแรมเมอร์เคียว ดานัง เฟร้นช์ วิลเลจ ฮิลล์ ซึ่งไม่รวมกับจุดขึ้นกระเช้าของนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปเที่ยวแบบเดย์พาส ต้องบอกเลยว่า เขามีระบบการจัดการที่ดีมากๆ ครับ กระเช้าแห่งนี้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในปี 2009 และต่อมาได้รับการบันทึกสถิติโลกว่า เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่มีระยะทางยาวที่สุดในโลก (5,042 เมตร) และสูงที่สุดในโลก (1,368 เมตร) เรียกว่า ถ้าเราได้มานั่งกระเช้าที่นี่ เราจะได้สัมผัสกับความสวยงามของทัศนียภาพโดยรอบของเทือกเขา
ภาพด้านล่างเป็นแผนผังของ บานา ฮิลล์ Ba Na Hill ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่า มีเคเบิ้ล ทั้งหมด 4 สาย ไว้รองรองนักท่องเที่ยว กรณีช่วงพีค กระเช้าจะเปิดให้บริการทุกสาย เพื่อกระจายความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวการนั่ง Cable car หรือกระเช้าไฟฟ้านั่น 1 ตู้ จะสามารถนั่งได้ประมาณ 8 ท่าน หากมีกระเป๋าสัมภาระด้วย ก้อประมาณ 6 ท่าน นั่งกันแบบสบายๆ ตลอดการนั่งกระเช้า เราจะได้เห็นวิวภูเขาธรรมชาติสีเขียว ผ่านน้ำตก ทำให้กลบเกลื่อนความเสียวได้ ประมาณ 15 นาที กระเช้าก้อพาพวกเรามายังบริเวณยอดเขาบานาฮิลล์ พร้อมสัมผัสได้ถึงความเย็น
ด้วยความที่ บานาฮิลล์ (Bana Hills) ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร ความสูงระดับนี้ทำให้พื้นที่บริเวณบาน่าฮิลล์ (Bana Hills) มีอากาศเย็นสบายกว่าในตัวเมืองดานังมากกก จากตอนแรกที่ก๊อตอยู่ในตัวเมืองดานังนี่ร้อนเหงื่อแตก พอขึ้นมาด้านบนที่บานาฮิลล์ที คือเย็นสบาย เหงื่อแทบไม่มี
เสร็จแล้วพวกเราลากกระเป๋ากันไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม เพื่อฝากกระเป๋ากันก่อน เพราะว่ายังไม่สามารถเช็คอินเข้าห้องพักได้ ไกด์ของพวกเราก้อจะพาไปแนะนำจุดเช็คอินด้านบน หลักๆ คือ การนั่งกระเช้าไปสะพานมือ สวนดอกไม้ เป็นต้น เพื่อที่ช่วงเช้าของวันต่อไป จะได้มาถ่ายรูปกันแต่เช้า เนื่องจากจะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากเหมือนช่วงกลางวัน เราใช้เวลาในการนั่งกระเช้ามายังสะพานมือไม่นานนัก เราก้อเดินทางมาถึง สะพานมือยักษ์ สำหรับไฮไลท์ของการมาเที่ยวบานาฮิลล์คงไม่พ้น สะพานมือยักษ์ (Golden Bridge) ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2561 เป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดในบานาฮิลล์ ใช้เงินลงทุนสร้างไปถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6 หมื่นล้านบาท เป็นสะพานลอยฟ้าสีทองที่มีรูปปั้นมือยักษ์ทั้ง 2 ข้าง ยกชูสะพานไว้ มีความยาว 150 เมตรและสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร มีความสวยอลังการที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทุกมุมโลก
ในวันที่ฟ้าเปิด หมอกไม่เยอะมาก มองไปรอบๆ สะพานมือ จะเห็นวิวของธรรมชาติที่สวยงาม และยังมองเห็นตัวเมืองดานัง และทะเลในระยะไกลได้อีกด้วย ใครที่มาบานาฮิลล์แล้ว จึงไม่ควรพลาดมาชมสะพานมือยักษ์แห่งนี้ รับรองว่าประทับใจแน่นนอน ต่อกันด้วย โซนเครื่องเล่นที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน มาเริ่มกันที่โซนด้านนอกอาคารอย่าง รถไฟเหาะ Alpine Coaster เป็นเครื่องเล่นไฮไลท์และยอดนิยมสำหรับผู้ที่มาเที่ยวที่นี่ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ความหวาดเสียวมารวมกันตรงนี้ เป็นรถไฟเหาะที่นั่งได้ 2 คน ไต่ลงมาตามรางที่คดเคี้ยวด้วยความเร็ว เป็นรถบังคับด้วยเกียร์หากต้องการเบรคและชลอความเร็วใครที่ชอบความหวาดเสียวแบบสุดๆ ถ้าได้มา ทัวร์บานาฮิลล์ โซนสวนสนุก Fantasy Park แล้วล่ะก็… ต้องรีบมาต่อคิวเล่นเจ้าเครื่องนี้ Tower Drop เป็นเครื่องเล่นที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก ยิ่งอยู่ในร่มยิ่งทำให้ดูยิ่งใหญ่ ด้วยความสูงถึง 29 เมตร ค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปยังจุดสูงสุดก่อนที่จะทิ้งตัวลงมาหลังจากนั้นได้เวลา ลูกค้าก้อทยอยมารับคีย์การ์ดเข้าห้องพัก เพื่อพักผ่อนกัน ซึ่งโรงแรมก้อจะมีหลายตึก แยกกันไป ตั้งแต่ตึก 2-9 กันเลยทีเดียว ซึ่งห้องพักที่เราจองไว้เป็นห้องแบบสแตนดาร์ดเริ่มต้น มีขนาด 22 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตามมาตรฐานโรงแรมระดับ 4 ดาว ในเครือ Accor มีมินิบาร์ เครื่องปรับอากาศ และห้องน้ำในตัว และสามารถมองเห็นวิวของภูเขาหรือวิวของหมู่บ้านโดยรอบในช่วงยามเย็นที่นี่จะมีความเงียบสงบ มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะเหลือแค่คนที่พักอยู่บนบานาฮิลล์เท่านั้น จะไม่มีความวุ่นวาย ซึงในช่วงเย็นวันนั้นก้อเช่นกัน แสงยามเย็นสวยงามมากจนอดไ่ม่ได้ที่จะกดชัตเตอร์จากกล้องมือถือมาฝากกันให้ชมครับ อาหารเย็นเรารับประทานอาหารกันที่ห้องอาหารของโรงแรมเนื่องจากเป็นกรุ๊ปทัวร์ สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่ซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งอาจจะไม่ได้รวมอาหารเย็นไว้ในราคาห้องพัก สามารถเลือกใช้บริการห้องอาหารต่างๆ บนบานาฮิลล์ได้ ซึ่งมีร้านอาหารค่อนข้างหลากหลาย เรามาชมภาพห้องอาหารของโรงแรมกันครับ ว่าจะมีอะไรให้ทานกันบ้างเช้าวันที่สองของการเดินทาง
ผู้เขียนมักจะเลือกตื่นแต่เช้าตรู่ประมาณ 04.30 น. ออกมาถ่ายภาพแสงแรก เพราะต้องบอกว่า ที่เมืองดานังนั้น ฟ้าจะสว่างเร็วมากกว่าที่เมืองไทย ในวันนั้นประมาณ 05.30 น. พระอาทิตย์โผล่ขอบฟ้าเรียบร้อย เช้าวันนั้นก้อเช่นกันครับ แอดมินรีบตื่นแล้วรีบเตรียมอุปกรณ์การถ่ายภาพ
จุดที่แอดมินชอบที่สุด คือเดินไปถ่ายตรง The Linh Phong Zen Monastery เจดีย์ 9 ชั้นสถาปัตยกรรมสไตล์จีนเวียดนามสีขาวและหอระฆังอันงดงามอ่อนช้อย ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่บนมุมสูงที่สุดของ Bana Hills ท่ามกลางบรรยากาศสงบร่มเย็น อีกทั้งด้านบนเจดีย์ยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่สูงที่สุด และสวยที่สุดของ Bana Hills อีกด้วยหลังจากได้ภาพแสงยามเช้าแล้ว ผู้เขียนก้อเดินลงมา เพื่อไปนั่งกระเช้าเที่ยวแรกเวลา 06.00 น. ถามว่าทำไมพวกเราต้องไปแต่เช้ากันครับ เพราะว่า ช่วงเวลาปกติ จะมีนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาท่องเที่ยวบน บานา ฮิลล์ ซึ่งเวลาถ่ายภาพก้อจะติดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ดังนั้นช่วงเวลานี้จะดีที่สุดสำหรับความคิดของผู้เขียน
สำหรับตารางเวลากระเช้า สามารถเช็คที่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมอีกครั้งว่า มีเปิดเที่ยวเวลากี่โมงบ้างหลังจากเต็มอิ่มกับการถ่ายภาพและท้องเริ่มหิวแล้ว เรานั่งกระเช้ากลับมาที่โรงแรมกันครับ เพื่อรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม และเรามีนัดกันเพื่อลงไปด้านล่าง เวลา 11.00 น. เนื่องจากต้องการให้ทุกท่านได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศด้านบนกัน เมื่อได้เวลาตามที่นัดหมายกัน ก่อนเดินทางลงไปด้านล่าง ขอถ่ายภาพหมู่กันก่อนเพื่อความประทับใจ พวกเราเดินทางลงจาก ยอดเขาบานาฮิลล์ สู่ สถานีกระเช้าด้านล่าง โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที และก้อต้องปรับสภาพในเรื่องอากาศกันใหม่ เพราะด้านบนอากาศค่อนข้างเย็นสบาย แต่ด้านล่างจะค่อนข้างร้อนอบอ้าว หลังจากนั้นเราเดินทางเข้าตัวเมืองดานัง กันด้วยรถบัสคันเดิม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อไปร้านอาหารกลางวันกันครับที่อยู่ริมหาดหมีเคว
มื้อนี้ เราจัดแบบสุกี้กุ้งมังกร หอย ปูม้า พร้อมกับเสริฟด้วยเมนูอื่นๆ เรียกได้ว่าจุกๆ กันไปเลยหลังจากนั้น ออกเดินทางท่องเที่ยวกันต่อ อีกหนึ่งในที่เที่ยวแนะนำของเมืองดานังที่จะพาไปเช็คอิน นั่นคือ โบสถ์คริสต์ดานัง (Danang Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญเนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาคริสต์ในเวียดนาม สร้างขึ้นในสมัยที่เวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส
ถ้าใครมาที่นี่ก็จะได้พบกับโบสถ์ขนาดใหญ่ที่เป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์โกธิก พร้อมด้วยการตกแต่งอย่างสวยงามประณีต ที่สำคัญคือเป็นโบสต์สีชมพูพาสเทลทั้งหลัง ตัดขอบด้วยสีขาว ดูละมุนตาสุดๆ ใครมา เที่ยวเวียดนาม ที่เมืองดานังต้องไม่พลาด!!หลังจากนั้น แวะถ่ายรูป APEC PARK สวนเอเปค สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ครอบคลุมพื้นที่ 8,668 ตร.ม. ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำฮาน เมืองดานัง เปิดดำเนินการวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 บริเวณสวนมีสนามหญ้าขนาดใหญ่ ทางเดินปูด้วยหิน สวนหย่อมและยังสามารถมองเห็นแม่น้ำฮัน มีพื้นที่พักผ่อนมากมาย ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ไฮไลท์ของสวน APEC แห่งนี้คือ โดมขนาดยักษ์ที่สร้างจากเหล็ก 200 ตัน มีลักษณะเหมือน “ว่าวยักษ์” จากนั้นพวกเราเดินทางเข้า 🏨🏨🏨🏨 ที่พักเมืองดานัง มาตรฐาน 4 ดาว Muong Thanh Grand Da Nang Hotel สำหรับการเตรียมตัวเข้าร่วมงานเลี้ยงปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ พวกเรามีการทำป้ายต้อนรับโชว์หน้าทางเข้าตัวโรงแรมให้ดีลเลอร์โนเกียด้วย เลิศมั้ยหล่ะครับ สำหรับห้องพักของกรุ๊ปนี้ จะเป็นห้องแบบซูพีเรียร์ มีขนาด 27 ตรม. เป็นวิวเมือง คือหันหน้าเข้าฝั่งทะเล ซึ่งจะมองได้ค่อนข้างไกล ภายในห้องประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามมาตรฐานที่พักระดับ 4 ดาวของเวียดนามสำหรับในช่วงค่ำวันนี้ ก้อเป็นงานเลี้ยงดินเนอร์ Thank you party แบบ Private Party ณ ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม ซึ่งงานนี้บอกเลยว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว มีทั้งจอ LED คาราโอเกะ มีโชว์พิเศษทั้งหมด 3 ชุด อีกทั้งอาหารบุฟเฟ่ห์ที่จัดมาให้ทานกันแบบจุก พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์เวียดนาม จากภาพด้านล่างห้องจัดเลี้ยงพร้อมแล้วสำหรับคืนนี้สำหรับในช่วงงานเลี้ยง พิธีกรของพวกเรา คือ คุณกอล์ฟ และคุณเต้ และมี Back stage เป็นคุณเซน และคุณฉี ตลอดงานเรียกได้ว่าเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความสุข ความสนุกสนาน คุ้มค่ากับการมาร่วมทริปท่องเที่ยวครั้งนี้ และในช่วงของงานเลี้ยงปาร์ตี้ ได้มีผู้บริหารจากทาง YAS และ Nokia ให้เกียรติกล่าวต้อนรับอีกครั้งอย่างเป็นทางการ และเป็นกาารเปิดตัวสินค้าโนเกีย รุ่นใหม่ พร้อมชมโชว์ต้อนรับทั้งหมด 3 ชุด เรียกเสียงปรบมือจากผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงได้อย่างดียิ่ง
ในงานเลี้ยงทางเรามีเซอร์ไพรซ์วันเกิดให้กับผู้เข้าร่วมทริปครั้งนี้ด้วย หน้าตาเค้กของเราก็ไม่ธรรมดา แถมเรายังทำเป็นโลโก้ Nokia , YAS ด้วย เรียกได้ว่า Happy ตามๆ กันครับปิดท้ายของงานเลี้ยงปาร์ตี้ด้วยภาพดีลเลอร์ที่เข้าร่วมทริปท่องเที่ยวเมืองดานัง จำนวน 156 ท่าน วันที่สามของการเดินทาง กรุ๊ปแรก ซึ่งมีแพลนจะต้องเดินทางกลับวันนี้ จะต้องไปท่องเที่ยวเมืองฮอยอัน เมืองมรดกโลก และกลับเข้ามาเมืองดานัง ก่อนบินกลับกรุงเทพฯ ส่วน กรุ๊ปที่สอง ก้อจะต้องขึ้นไปนอนที่ บานาฮิลล์
สำหรับห้องพักที่เป็นฝั่งวิวเมือง จะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากห้องพักได้เลย เนื่องจากพระอาทิตย์ขึ้นทางหน้าหาดหมีเควสำหรับอาหารเช้าของโรงแรมที่เราพักนั้น ค่อนข้างดี มีความหลากหลายมาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่เรานำเสนอโรงแรมนี้ให้กับลูกค้าในทริปนี้ ห้องอาหารที่นี่จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. กันเลยทีเดียว ได้เวลาสมควร พวกเราเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมทั้งสองกรุ๊ป และแยกย้ายกันไปตามโปรแกรมของแต่ละกรุ๊ป
จากนั้นพวกเราออกเดินทางสู่ หมู่บ้านกั๊มทาน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเมืองฮอยอัน โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาที ภายในจะเป็นสวนมะพร้าวและมีแม่น้ำล้อมรอบ
ในปัจจุบันอาชีพหลักของคนที่นี่จะประกอบอาชีพทำประมง ที่นี่เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นสนุกสุดมันส์กับกิจกรรม ล่องเรือกระด้ง (Bamboo basket boat) จะได้รับชมวัฒนธรรมอันสวยงามของชาวท้องถิ่น และระหว่างที่ล่องเรือกระด้งอยู่นั้นชาวบ้านที่นี้ก็จะมีการขับร้องเพลงพื้นเมือง และนำไม้พายเรือมาเคาะเพื่อประกอบเป็นจังหวะดนตรี หลังล่องเรือกระด้งเสร็จแล้ว พวกเราก้อออกเดินทางต่อไปยัง ตัวเมืองฮอยอัน เมืองมรดกโลก อีกหนึ่งที่เที่ยวยอดฮิตของเวียดนาม ที่มีความโดดเด่นแบบเห็นได้ชัดก็คืออาคารบ้านเรือนสีเหลืองสดใส และยังมีเสน่ห์อีกหลายอย่างที่รอให้ทุกคนไปสัมผัส. เราใช้เวลาไม่นานก้อเดินทางมาถึง เมืองฮอยอัน ได้เวลาอาหารเที่ยงกันแล้ว เราทานกันที่ร้านอาหารไม่ไกลจากตัวเมืองเก่าฮอยอันเท่าไหร่นัก หลังจากนั้นพวกเราเดินทางกลับเข้าตัวเมืองดานังอีกครั้ง แวะเช็คอิน สะพานมังกร Golden Bridge สัญลักษณ์แห่งใหม่เมืองดานังในโอกาสครบรอบ 38 ปี ที่เมืองดานังได้รับอิสรภาพและเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเมืองดานังหลังจากนั้นมาแวะซื้อของฝฝากกันที่ ตลาดฮาน ตลาดขายของ ย่านใจกลางเมืองดานัง ตลาดฮานเป็นสถานที่รวบรวมสินค้า อาหารพื้นเมืองเวียดนาม ของฝากจากเวียดนาม มีให้เลือกครบทุกสิ่ง อย่างเรียกได้ว่าอยากได้อะไร อยากซื้ออะไร ก็มาหาได้ที่ตลาดฮานแห่งนี้ได้เลย บางท่านก้อมาร้านกาแฟกับแอร์เย็นๆ จิบกาแฟเวียดนามก่อนเดินทางกลับเมืองไทย ได้เวลาอันสมควร พวกเราเดินทางเข้า ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ทีมงานอำนวยความสะดวก นำโหลดกระเป๋าสัมภาระ ณ เคาเตอร์สายการบินแอร์เอเซีย และออกเดินทางกลับ สู่ประเทศไทย ✈✈✈ โดยสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบิน FD639 และ🛬🛬🛬 เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจในการในบริการและสนุกสนานตลอดการเดินทางในทริปนี้
ขอบคุณทีมงานแลนด์เวียดนามที่อำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับทริปการเดินทางครั้งนี้
เป็นไงกันบ้างครับสำหรับภาพประทับใจที่นำมาฝากกัน ครั้งต่อไปมาดูกันว่าจะพาไปชมภาพทริปไหนอีก
อย่าลืมติดตามกันนะครับและสำหรับครั้งนี้ขอกล่าวคำว่า “ขอบคุณและสวัสดีครับ”
สนใจให้พวกเราออกแบบเส้นทางท่องเที่ยว
ติดต่อ ออลดรีมเดสติเนชั่นส์
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/10754
: 063-2690054 คุณนานา (ทัวร์จอย)
: 094-4639541 คุณโอ๋ (กรุ๊ปเหมา และภาพรวม)
: alldreamdestinations
: info@alldreamdestinations.com
: https://alldreamdestinations.com
FB Fanpage : ออลดรีมเดสติเนชั่น https://www.facebook.com/Alldreamdestinations